Samsung Galaxy S8 ภาพหลุดเผยให้เห็นตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และความสามารถใหม่ๆที่น่าจะมาด้วย - ChaiiKung Blog | Technology News, Advice and Features

Friday, January 27, 2017

Samsung Galaxy S8 ภาพหลุดเผยให้เห็นตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และความสามารถใหม่ๆที่น่าจะมาด้วย

จากภาพหลุดก่อนหน้าของ Samsung Galaxy S8 ที่ต่างเดากันว่าจะมีระบบสแกนลายนิ้วมือในจออาจต้องดับฝันกันไปแล้ว
    เพราะภาพหลุดล่าสุดเผยให้เห็นตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลังแล้ว โดยในภาพจะเห็นเป็นสองรุ่น 5.8 นิ้ว และ 6.2 นิ้วแบบ QHD Super AMOLED ซึ่งมีขนาดขอบต่างๆส่วนด้านหน้าน้อยลงมาก เพราะหน้าจอคิดเป็น 83% ของพื้นที่ด้านหน้าเลย โดยมีสัดส่วนหน้าจอ 18.5:9 ซึ่งปกติมือถือทั่วไปจะมีสัดส่วน 16:9 ถือว่าหน้าจอยาวขึ้น และทั้งสองรุ่นมาพร้อมจอโค้ง


    ซึ่ง Samsung Galaxy S8 ที่จะมาพร้อม Android 7 นั้นจะมี CPU 2 ยี่ห้อเหมือนเดิมตามประเทศที่วางจำหน่าย โดยจะมี Qualcomm Snapdragon 835 และ Samsung Exynos ซึ่งทั้งสองต่างผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร เหมือนกัน โดยจะให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Samsung Galaxy S7 11% และ ความไวด้านกราฟฟิก 23% และประหยัดพลังงาน 20%

   โดยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นก็อาจจะมาพร้อมกับการบริโภคแบตเตอรี่ที่มากขึ้น ซึ่งทั้งสองรุ่นก็จะมาพร้อมแบตเตอรี่ 3000mAh และ 3500mAh สำหรัยหน้าจอ 5.8 นิ้ว และ 6.2 นิ้ว และมาพร้อมแรม 4GB (เสียใจเจ้าอื่นให้มา 6GB กันหมดแล้ว) ความจุจะมาขั้นต่ำที่ 64GB รองรับ MicroSD 256GB พอร์ต USB-C และยังมีรูหูฟังอยู่

ภาพถ่ายและระบบยืนยันตัว
    กล้องหลังอาจมา 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (f1.7) และน่าจะมาพร้อมกับ iris scanning หรือระบบสแกนม่านตานั้นเอง เหมือนใน Samsung Galaxy Note 7


และสิ่งที่เปลี่ยนไปครั้งนี้หลักๆเลยคือไม่มีปุ่ม Home แล้ว และย้ายตัวสแกนลายนิ้วมือมาไว้ด้านหลังเหมือนสมัยนิยมที่เจ้าอื่นๆทำกัน แต่มาวางไว้ข้างๆ เลนส์กล้องแทนที่จะวางไว้ตรงกลางตัวเครื่อง

ความสามารถที่อาจเพิ่มขึ้นมา
    ครั้งนี้อาจจะมาด้วยความสามารถใหม่ที่ชื่อว่า Samsung DeX หรือการที่เจ้ามือถือของเราจะทำตัวเป็น Computer สามารถเชื่อมต่อเม้าส์ และคีย์บอร์ด และจอต่อแยกได้เลย เหมือน Microsoft Continuum


    และจะมีสิ่งใหม่ที่เพิ่มมาคือ Bixby หรือก็คือ Siri ของ Apple และ Google Assistant ของ Google โดยคราวนี้จะสามารถรองรับคำสั่งที่ซับซ้อนขึ้นได้มากกว่าของเดิม และหน้าจอที่รองรับแรงกดได้หลายระดับเหมือนทาง iPhone

ที่มา venturebeat